20.9.56

น่านฟ้าไทย...จะมิให้ใครย้ำยี

กำ



" น่านฟ้าไทย...จะมิให้ใครย่ำยี "

แสดงให้เห็นถึงปณิธานของกองทัพอากาศที่มีความมุ่งมัน

พร้อมที่จะปกป้องและพิทักษ์ ประเทศไทยเสมอ


                            สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านวันนี้หลายท่านอาจจะสงสัยว่าผู้เขียนจะมานำเสนอในประเด็นอะ จะพาไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่า ใช่แล้วละวันนี้ผู้เขียนจะพาทัวร์พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติด้านการบินนั่นเอง พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศแ่ห่งนี้ตั้งอยู่ เลขที่ 171 ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง หรือสังเกตุง่ายๆก็คือจะอยู่ติดกับกองกัญชาการกองทัพอากาศนั่งเองค่ะ 




                            การเข้าชม นั้นทางพิพิธภัณฑ์เปิดให้บริการทุกวัน เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม ส่วนการเข้าชมเป็นหมู่คณะ โทรติดต่อล่วงหน้าที่ เบอร์ 0-2535-1853 ,0-2534-1764 โทรสาร 0-2534-1579

                            สามารถเดินทางโดยรถประจำทาง

                            รถธรรมดา หมายเลข 34 , 39 ,114, 356

                            รถปรับอากาศ หมายเลข 3, 21, 22, 24, 25, 34, 39, 114, 356

                            พิพิธภัณฑืกองทัพอากาศแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 อาคารด้วยกันและจะมีส่วนที่จัดแสดงภายนอกอาคารด้วย






                            อาคาร 1 แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกจะเป็นอาคารที่จัดแสดงนิทรรศ "100 ปี การบินของบุพการีทหารอากาศ" นั่นคือประวัติของการก่อตั้งกองทัพอากาศไทย จัดแสดงเครื่องบินในยุคแรกๆ เครื่องบินที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้น และในส่วนที่สองเป็นการจัดแสดงเครื่องบินสมัยใหม่ เป็นต้น







                            อาคาร 2 จะมี 2 ชั้น ด้านบนจะจัดแสดงเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆที่ใช้ในการบิน ด้านชั้นจะจัดแสดงเครื่องบินที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในปฏิบัติการต่างๆ เช่น การฝึกบิน พยาบาล ร่วมรบในสงคราม และจุดเด่นของอาคารนี้ก็คือเครื่องทิ้งระเบิดที่มีชื่อว่า "บริพัตร"ซึ่งเป็นเครื่องบินที่คนไทยออกแบบและสร้างเอง 






                            อาคาร 4 เป็นอาคารที่จัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องแบบ ชั้นยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต่างๆ ของทหารอากาศ และจัดแสดงขั้นตอนของการฝึกนักบินด้วยห้องปรับบรรยากาศความดันต่ำ และเครื่องบินจำลองเป็นต้น




                            
                            อาคาร 5 เป็นอาคารที่จัดแสดงเฮลิคอปเตอร์แบบต่างๆ และขับไล่ใบพัดรุ่นสุดท้าย และจุดเด่นของอาคารนี้ก็คือ เฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ 212 ซึ่งเป็นเฮลิคอปเคอร์พระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





                            การจัดแสดงภายนอกอาคาร เป็นการจัดแสดงเครื่องบินลำเลีง เครื่องบินโจมตี เครื่องบินที่กองทัพอากาศออกแบบและสร้างขึ้นเอง เครื่องบินตรวจการณ์ เครื่องบินทิ้งระเบิด เป็นต้น


* ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่าอาคาร 3 หายไปไหนนะคะ อาคาร 3 เป็นอาคารที่กำลังซ่อมบำรุง จึงยังไม่เปิดให้เข้าชมนั่นเอง

                            หลังจากที่ได้พาทัวร์รอบๆ พิพิธภัณฑ์กันไปแล้วนะคะ ผู้เขียนอยากจะบอกผู้อ่านทุกท่านว่าผู้เขียนไม่เคยเห็นเครื่องของจริงเลยค่ะ ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ เป็นอย่างมาก ^^ นอกจากจะได้เห็นเครื่องบินแล้วก็ยังได้ศึกษาประวัติ ความเป็นมา และพัฒนาการของกองทัพอากาศไทยด้วยค่ะ จริงๆ ผู้เขียนก็ชอบอะไรที่เกี่ยวกับประวัติของประเทศไทย อยากจะรู้ความเป็นมาเป็นไปของทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับประเทศไทยเลยด้วยซ้ำแต่ก็ำไม่ค่อยได้เดินทางออกไปสัมผัสและเรียนรู้ที่ไหนมากนัก และพอมีโอกาสมาที่นี่จึงประทับใจมาก และความพิเศษของพิพิธภัณฑ์นี้ก็คือสามารถจับต้องของที่โชว์อยู่ได้ นั่นหมายความว่าสามารถขึ้นไปบนเครื้องบินได้นั่นเองผู้เขียนกับเพื่อนๆที่เดินทางไปด้วยกันเลยมีโอกาสขึ้นไปถ่ายรูปบนเครื่องบินด้วยกันค่ะ ถ้าผู้อ่านท่านในมีโอกาสก็อย่าลืมมาเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศกันให้ไทยนะคะ ^________________^






19.9.56

มีดีก็อยาก...โชว์


TECHNO SHOWCASE ก้าวล้ำนำการศึกษา






                          " เทคโนโลยี " กับ "การศึกษา" หลายๆท่านอาจสงสัยว่าเกี่ยวข้องอะไรกัน และงานนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร วันผู้เขียนจะมาช่วยไขข้อข้องใจให้นะคะ

                          หากจะกล่าวถึงคำว่า  " เทคโนโลยี " หลายคนก็คงคิดถึงสิ่งต่างๆที่สามารถอำนวยความสะดวกช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น หรือไม่ก็สิ่งของที่มีความทันสมัย ล้ำหน้า ซึ่งจริงๆ ชื่อของงานนี้ก็ไม่หมายถึงความทันสมัยเพียงอย่างเดียว ความหมายอีกนัยหนึ่งของเทคโนก็คือชื่อสาขาวิชาที่ผู้จัดงานได้เรียนอยู่ด้วยนั่นเอง ชื่อเต็มๆของเอก/สาขานี้คือ เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา เป็นสาขาหนึ่งของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ชื่ออาจจะไม่คุ้นใช่หรือป่าวคะ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมาด้วยเช่นกัน เพื่อเผยแพร่ให้กับนักเรียนนิสิตหรือบุคคลทั่วไปได้รู้จักกับ "เอกเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา" มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญจะได้รู้ว่าเอกนี้เรียนอะไร ที่ความสามารถอะไร จบไปสามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ก็ได้รวบรวมผลงานของทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่จัดแสดงเอาไว้อีกด้วย

ภายในงานมีบูทที่จัดแสดงอยู่ทั้งหมด 8 บูทดังนี้

                       




























                     
                         และสำหรับในการจัดงานครั้งนี้ผู้เขียนได้รับหน้าที่ให้ประจำอยู่ที่บูท Read me please ซึ่งเป็นบูทเกี่ยวกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพับ โปสเตอร์ นิตยสาร เป็นต้น ภายในบูทมีกิจกรรมเช่น การตอบปัญหาชิงรางวัล และ เวิร์ีคชอปการออกแบบปกนิตยสาร สิ่งที่ดูจะเป็นที่สนใจของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมก็คงไม่้พ้น นิตยสารที่เป็นผลงานของนิสิตในภาควิชานั่นเองค่ะ ในการทำงานในครั้งนี้ก็ได้รับประสงการณ์ต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมงาน การวางแผนงาน การจัดกิจกรรมต่างๆ หลังจากที่งานได้จัดเสร็จสิ้นลงไปเรียบร้อย และงานก็ประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมายอย่างมากจากยอดผู้เข้าชมหลายร้อยคน ถึงแม้กว่าจะเตรียมงานเสร็จเพื่อนๆ ทุกต่างก็เหมือนแต่พอผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเช่นนี้ก็ทำให้ความเหนื่อยล้าต่างๆ คลายลงได้




                         ซึ่งในแต่ละบูทจะเป็นการนำเสนอว่าเทคโนโลยีต่างๆ นั้นเข้ามามีส่วนในการศึกษาอย่างไรบ้าง ซึ่งผู้เขียนจะขอสรุปให้เลยว่า การศึกษานั้นอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนของทั้งครูและนักเรียน ในด้านของครูก็จะสามารถสร้างสรรค์สื่อการสอนที่ดีมาจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในด้านของนักเรียนก็สามารถใช้เทคโนโลยีในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อมาเติมเต็มความรู้ในเรื่องๆ ที่อยากเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถค้นหาได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา และยังสามารถกลับมาทบทวนกี่ครั้งก็ได้ ถ้าเราหากเราใช้ดทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ก็จะทำให้เรามีความรู้ มีทักษะ มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากเราใช้ไปในทางที่ผิดก็จะเกิดผลกระทบและปัญหาตามมาได้ค่ะ



คลิกเดียว...ก็เที่ยวได้

                 




                       โลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลทำให้เราไม่สามารถออกไปผจญภัยได้ทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถรับรู้หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ได้ เพราะปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แค่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็สามารถเปิดโลกการเรียนรู้ให้กว้างใหญ่ได้เท่ากับหนังสือเล่มหนึ่งหรืออาจจะมากว่าได้ สำหรับว่าวันผู้เสนอจะมานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับนิทรรศการออนไลน์ ซึ่งเป็นที่ทำให้เราสามารถชมนิทรรศการได้ทุกซอกทุกมุมโดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปไกลถึง หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ คลอง 5 ที่ปทุมธานีเลย โดยที่ http://www.kingrama9.net/ ได้นำข้อมูลมาจัดแสดงไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่เพียงแต่ข้อมูลของนิทรรศการเท่านั้นภายในเว็บไซต์นี้ยังจัดแสดงสื่อต่างๆเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้่าอยู่หัว ฉลอง 84 พระชนมพรรษา และเพื่อเผยแพร่พระอัจริยภาพในด้านต่างๆ ที่พระองค์ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะทรงงานเพื่อประชาชนชาวไทย โดยในเว็บไซต์มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้






                       ในส่วนนี้จะเป็นการจัดแสดงนิทรรศการออนไลน์ ที่มีรูปแบบเป็นการจัดแสดงแบบ 3 มิติ  คือการจำลองนิทรรศการของจริงมาเป็นภาพเคลื่อนไหวที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าได้เดินชมอยู่ในนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเลย ซึ่งแตกต่างจากหลายๆเว็บไซต์ที่อาจจะนำเสนอเพียงแต่รูปเพียงเท่านั้นอาจจะไม่มีความน่าสนใจมากนั้น เพราะยุคสมัยในปัจจุบันนี้คนมักจะชอบสื่อที่มีความแปลกใหม่และทันสมัย และนี่คือตัวอย่างของการจำลองการเข้าชมนิทรรศการ


                       ต้องบอกว่าได้มีการจำลองมาได้อย่างเหมือนของจริงที่จัดแสดงอยู่ที่ง หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ทุกประการและที่สามารถพูดได้ขนาดนี้เพราะเมื่อ 2553 ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมมาแล้วนั่นเอง ภายในนั้นจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจด้านๆของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก


                       นอกจากในเว็บไซต์จะมีนิทรรศการออนไลน์ให้ได้ชมกันแล้วยังมีสื่อมัลติมีเดียหลากหลายเรื่องที่ให้ความรู้เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย

                     
                       จะเห็นได้ว่่าบางครั้งการที่เรียนรู้ก็อาจจะไม่จำเป็นที่จะไปสัมผัสกับของจริง สถานที่จริงเสมอไป เพียงแค่เราใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เป็นประโยชน์ก็สามารถค้นคว้าหาความรู้ได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะต้องการรู้เรื่องใดๆก็ตามขอแค่ให้มีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ และความตั้งใจที่จะศึกษาก็สามารถทำให้เราเป็นผู้ที่มีความรู็้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก :  http://www.kingrama9.net/
ขอบคุณรูปภาพ  : คัทรียา   คำโฮง

Yiruma - River Flows In You